วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

คริสมาสต์ปีนี้ 2012 ผมอยากเห็น Flash Mob ร้องเพลงคริสมาสต์บ้างจังครับ

วันนี้ผมว่างๆ ก็เลยเข้าไปดูอะไรเล่นๆใน Youtube เพลินๆไปเรื่อยๆ จนมาเจอคลิปนึงที่เรียกว่า Flash Mob ร้องเพลงฮาเลลูยา ขอเชิญดูตามคลิปนี้ก่อนนะครับ


Flash Mob คืออะไร แฟลชม็อบ (อังกฤษflash mob หรือ flashmob[1] คือการรวมตัวของกลุ่มคนในสถานที่หนึ่งอย่างฉับพลัน เพื่อแสดงสิ่งแปลกตาและดูเหมือนไม่มีจุดมุ่งหมายในช่วงระยะเวลาอันสั้น จากนั้นจึงสลายตัว มักจะทำเพื่อจุดประสงค์การบันเทิง การล้อเลียน หรือการแสดงออกทางศิลปะ [2][3] แฟลชม็อบเกิดขึ้นโดยการนัดกันผ่านการสื่อสารโทรคมนาคม เครือข่ายสังคม หรืออีเมลแบบปากต่อปาก (จาก Wikipidea) อีกอันที่เป็น Flash Mob ที่ดังมากเมื่อปีที่แล้วก็คือ Flash Mob ขอแต่งงานครับ โรแมนติกมากๆ



ก็เลยคิดถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ที่เราจะมีการร้องเพลงแครอลิ่งกันตามชุมชน หรือตามบ้านก็ตาม ผมนึกถึงเรื่องที่ดีๆที่จะทำให้คนทั่วไปได้ยิน ได้ประทับใจในบทเพลงคริสมาสต์ และรู้สึกดีกับสิ่งที่คริสเตียนได้ทำซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยอยู่แล้วว่า ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ จะได้เห็นคริสเตียนทำอะไรกับเทศกาลนี้แน่ๆ ซึ่งผมอยากให้สิ่งที่เราได้ทำมีผลกระทบทั้งในกลุ่ม ชุมชน ไปยันวงกว้างในสังคมไทยครับ

Flash Mob น่าจะเป็นอะไรที่เด็ดแน่นอน ให้เป็นไอเดียนะครับ เผื่อมีพี่น้องคนใดสนใจเอาไปจัดกิจกรรมกันดูน่าจะดีนะครับ 

อ้อ การเตรียมทำ Flash Mob นอกจากจะมีจำนวนคนที่ต้องนัดมาซ้อมไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง หรือการเต้นก็ตามแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงสถานที่ที่ทำด้วย และสำคัญที่สุดคือการถ่ายคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้ อย่างน้อยต้องมีกล้อง 3ตัวขึ้นไปครับ ถ่ายหลายๆมุม แล้วนำมาตัดต่อ เพื่ออัพโหลดขึ้นไปยัง Youtube ครับ จะเป็นกระแสต่อเนื่องได้ครับ ผมจะอธิษฐานเผื่อเรื่องนี้ครับ อยากเห็นจริงๆ

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รีวิว การใช้งาน App Bible พระคัมภีร์ ภาษาไทย บนมือถือ YouVersion ตอนที่2

หลังจากรีวิวการใช้งานเบื้องต้นในตอนแรกสำหรับ App Bible พระคัมภีร์ YouVersion ไปแล้ว มาถึงตอนที่ 2 นี้ที่ผมจะแนะนำวิธีการใช้งานที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ App YouVersion นี้ก็คือ ส่วนการค้นหาข้อพระคัมภีร์ และส่วนของการสร้างแผนการอ่านพระคัมภีร์สำหรับคนที่ต้องการอ่านพระคัมภีร์อย่างมีวินัย เป็นระบบ

เมื่อเราติดตั้ง App YouVersion เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเราเปิดเข้ามา จะพบกับหน้าต่าง Pop-Up สำหรับข้อพระคัมภีร์ประจำวันตามภาพซึ่งเราสามารถแชร์ข้อพระคำนี้ให้กับเพื่อนเราได้เช่นเดียวกันโดยการกดปุ่ม Share Verse of the Day ครับ

ในเมนูด้านล่าง จะเป็นพระคัมภีร์เล่มที่เราเปิดล่าสุด, แผนการอ่านพระคัมภีร์ที่เราได้สมัครเอาไว้ให้เราเลือกครับ แต่ถ้าจะไม่เลือกก็ให้กด Done ที่มุมด้านซ้ายบน เพื่อเข้าหน้าพระคัมภีร์ปกติครับ


โดยคุณสมบัติของ iPad ที่สามารถอ่านในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ตามแต่สะดวก เจ้าตัว App YouVersion นี้ก็จะทำการหมุน และปรับเปลี่ยนหน้าให้เหมาะสมกับแนวนอนได้ด้วยครับ 

เมื่อหมุนหน้าจอมาแนวนอนแล้ว จะเห็นว่า ด้านมุมขวาบนจะมีคำว่า Parallel เพื่อเอาไว้เปิดพระคัมภีร์พร้อมๆกัน 2 เล่มได้ เอาไว้ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านพระคัมภีร์เทียบเคียงกันใน Version ต่างๆครับ ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ศึกษาพระคัมภีร์ แต่ถ้าไม่ต้องการใช้ก็ปิดเป็น OFF ไว้ครับ




เมื่อกดปุ่มเมนูที่ด้านซ้ายบน จะมีหน้าต่างขึ้นมาด้านซ้ายมือดังภาพ เป็นส่วนต่างๆให้เลือก โดยเริ่มต้นบนสุด จะเป็นช่องว่างเอาไว้ให้พิมพ์ค้นหาคำ ข้อพระคัมภีร์ที่ต้องการครับ



เมื่อเราแตะในช่องว่าง ก็จะขึ้นมาเป็นแป้นพิมพ์ให้เราใส่คำเข้าไปเพื่อค้นหา และด้านซ้ายก็จะขึ้นมาเป็นคำเดิมที่เราเคยค้นหาครับ ซึ่งเมื่อผมทดลองใช้ในภาษาไทยค้นหา การค้นหาคำสั้นๆเช่นคำว่า รัก หรือชื่อคนเช่น พระเยซู ให้ความถูกต้องค่อนข้างดี แต่ถ้าจะค้นหาอย่างละเอียดเช่นพิมพ์เป็นประโยคเช่นคำว่า "ความรักนั้นก็" การค้นหาไม่พบ ทั้งๆที่ผมรู้ว่าอยู่ในพระธรรม 1คร.13:4 ดังนั้น อย่าคาดหวังมากกับการค้นหาในโปรแกรมนี้ครับ แต่ภาษาอังกฤษผมยังไม่ได้ทดสอบครับ และรู้สึกว่า App ในส่วนค้นหานี้ยังไม่สมบูรณ์ครับ เมื่อผมเข้ามายังหมวดนี้แล้ว จะกลับไปเมนูก่อนหน้านี้ไม่ได้ ต้องทำการปิดโปรแกรมแล้วเปิดใหม่ครับ คิดว่าทางผู้พัฒนาจะทำการแก้ไขในการอัพเดทครั้งต่อๆไปครับ


ต่อมา ส่วนที่สำคัญ และถือเป็นจุดเด่นของ App YouVersion นี้ก็คือส่วนของ Plans ที่จะช่วยเราอ่านพระคัมภีร์ได้อย่างเป็นระบบ และกำหนดวันเวลาได้ มีแผนให้เราเลือกร่วม 200กว่าแผนเลยทีเดียวครับ

เมื่อเรากดคำว่า Plans จากเมนูเข้ามาจะพบหน้าดังภาพข้างล่างครับ โดยแถบเมนูจะมี2ส่วน โดยดูด้านล่างสุดคือ My Plans แผนที่เราเลือกใช้อยู่ และ Browse Plans แผนที่เราต้องการค้นหา เลือกใช้ครับ

ดูจากภาพ ในส่วน My Plans ของผม จะมี Current Plans คือแผนที่ผมเลือกใช้อยู่ในปัจจุบัน มีทั้งหมด 4อันที่ผมกำลังอ่านตามแผนอยู่ โดยจะมีรายละเอียดและแถบสีบอกว่าเราอ่านไปถึงไหนของแผนแล้ว เหลือกี่วัน อ่านไปกี่ % เป็นต้น และ Cpmpleted Plans คือ แผนที่ผมได้ทำสำเร็จไปแล้ว เอาไว้ให้ดูเป็นที่ภูมิใจครับ




เมื่อเราต้องการหาแผนที่เราจะใช้ในการพระคัมภีร์ ก็ให้กดเลือก Browse Plans ที่ด่านล่างเลย ก็จะขึ้นมาเป็นหน้าต่างดังภาพข้างล่างครับ

โดยหลักๆ จะมี Categories ให้เลือกใหญ่ๆ 5 หมวดหมู่ได้แก่ Devotional, Partial Bible, Topical, Whole Bible และ Youth ซึ่งเราสามารถ Settings เลือกว่าจะหาแผนเป็นภาษาต่างๆได้ ระยะเวลาของแผนเราจะเอายาวหรือสั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนที่เป็นภาษาไทยครับ ผมก็เลือกแผนภาษาอังกฤษได้ครับ เพราะเวลาอ่านเราก็อ่านพระคัมภีร์ภาษาไทยอยู่แล้ว เพียงแต่รายละเอียดของแผนจะเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเราอ่านพอแปลได้ก็ไม่เป็นปัญหาครับ



คราวนี้เรามาดู Categories แรกที่ชื่อว่า Devotional จะเป็นแผนที่หลากหลายมากๆครับ เช่น How to Love a Friend ก็จะเป็นแผนการอ่านพระคัมภีร์ 4วันที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดี มีคำอธิบายในข้อพระคำนั้นๆที่เราอ่านด้วยครับ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ก็เลือกตามชอบ ตามการทรงนำของพระเจ้าในช่วงนั้นๆของเราครับ


Categories ต่อมาคือแผนแบบ Partial Bible หรือแผนการอ่านพระคัมภีร์เป็นส่วนเล่ม เช่น อ่านพระธรรม โคโลสีใน 2วัน พระธรรม2โครินธ์ใน 1สัปดาห์เป็นต้นครับ



Categories ที่3 สำหรับแผนการอ่านพระคัมภีร์คือ การอ่านแบบ Topical หรือการอ่านแบบหัวข้อครับ เช่น Joy เกี่ยวกับความชื่นชมยินดีใน 3วัน, Hope เกี่ยวกับความหวังใน 3วัน เป็นต้น



Categories ที่4 สำหรับแผนการอ่านพระคัมภีร์คือ การอ่านแบบWhole Bible หรือการอ่านพระคัมภีร์ให้จบทั้งเล่ม ซึ่งเป็นแผนการอ่านที่เหล่าคริสเตียนทั้งหลายมีความหวังใจว่าในสักครั้งหนึ่งในชีวิต จะต้องอ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มครับ สังเกตได้ว่าแผนการอ่านแบบนี้มีเยอะเลยครับ โดยแผนที่เร็วที่สุดในการอ่านคือ Bible in 90 Days และนานที่สุดจะเป็น 1ปีครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมจะใช้แผนยาวขนาดเป็นปีไม่ค่อยสำเร็จครับ ผมอาศัยอ่านเก็บแบบที่ละเล่ม ทีละหมวด ในหมวดของ Partial ได้ผลกว่าครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่บุคคลครับ หาแผนการอ่านที่เหมาะสมกับเราที่สุดดีกว่าครับ



Categories ที่5 คือแผนการอ่านพระคัมภีร์ Youth หรือเกี่ยวกับวัยรุ่น เช่น Anger ความโกรธ หรือ Suicide การฆ่าตัวตาย



เอาหละ เมื่อเราเลือกแผนที่เราสนใจ และตัดสินใจจะใช้แผนนั้นอ่านพระคัมภีร์แล้ว ก็กดเลือกเลยครับ ยกตัวอย่าง ณ.ปัจจุบันที่ผมรีวิว App อยู่นี้ ผมกำลังใช้แผนการอ่านพระคัมภีร์เดิม ในหมวดผู้เผยพระวจนะใหญ่ เวลาแผนทั้งหมด 60วัน วันนี้เป็นแผนวันที่ 12 จะขึ้นมาเป็นหน้าต่างดังภาพครับ วันนี้ผมต้องอ่านพระธรรมอิสยา 31-33 โดยแตะเลือกที่แผนด้านซ้ายแต่ละบทได้เลยครับ


เมื่ออ่านแล้ว ก็จะขึ้นเป็นเครื่องหมายถูกด้านหน้าพระคัมภีร์บทนั้นๆที่เราอ่านดังภาพครับ เพื่อเป็นการMark ว่าเราได้อ่านไปแล้ว


ดูแถบเมนูด้านล่างจะมีคำว่า Day และ Month เราสามารถเลือกดูแผน เป็นปฏิทินรายเดือนได้โดยการเลือกที่ Month ครับ วันที่เราอ่านตามแผนมาแล้วจะมีสัญลักษณ์จุดสีเทา และวันที่เรายังไม่ได้อ่านเป็นจุดสีฟ้าครับ



เวลาเราอ่านพระคัมภีร์ตามแผนในวันไหน เราก็ยังสามารถ Share ให้เพื่อนเราทราบได้โดยการกดที่ปุ่มด้านขวาบนครับ ถือเป็นการส่งบทเฝ้าเดี่ยวกับพี่เลี้ยงของท่านได้ครับ


สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้อ่านแผน และจะต้องเจอเสมอๆคือ บางวันเราอาจจะยุ่ง ไม่ว่าง หรือลืมอ่าน บางทีก็ 1วัน บางทีก็เล่นเป็นสัปดาห์ แผนที่อ่านของเราจะเสียไปเลยไหม หรือจะต้องไปตามไล่อ่านวันที่เราลืมมารวดเดียวก็คงไม่ไหว หลายคนอาจจะท้อตอนนี้ เลยพาลไม่อ่านต่อตามแผน ทิ้งแผนไปเลยครับ

แต่เจ้า App YouVersion นี้ผู้พัฒนาเข้าใจเราเป็นอย่างดีครับ โดยสามารถให้เราปรับแผนของเราใหม่ได้ครับ โดยการเลือกปุ่มด้านซ้ายล่างสุด ที่จะเป็น Plan Setting เมื่อกดแล้ว ให้ดูด้านล่าง จะมีปุ่ม Catch me up สีเขียว กดเลือกจะขีึ้นหน้าต่างมาดังภาพครับ เมื่อกดแล้ว App จะทำการเลื่อนวันและแผนให้เรา เช่น ถ้าเราไม่ได้อ่านตามแผน 3 วัน แผนก็จะเลื่อนหัวข้อเมื่อ 3 วันที่แล้วมาเป็นแผนเราใหม่ในวันนี้ครับ ดีมากๆครับ ซึ่งการ Catch Me Up แบบนี้ ทำให้ผมอ่านพระคัมภีร์ตามแผนได้สำเร็จในที่สุดครับ


ในส่วนของ Plan Settings จะมีรายละเอียดของแผนที่เราเลือกใช้อยู่ เป็นวันที่เราเริ่มต้น เราทำตามแผนไปแล้วเท่าไหร่ และตามแผนจะสิ้นสุดเมื่อไหร่

และเรายังสามารถกำหนดให้ App ทำการส่งพระคัมภีร์ตามแผนที่เราอ่านให้เราทางอีเมล์ได้ด้วยครับ โดยเราต้องเลือกที่ Email Delivery และตั้งเวลาส่งที่ Time ครับ

เราสามารถเลือกให้เตือนก่อนการอ่านได้โดยเลือกที่ Reminder และตั้งเวลาครับ

สุดท้าย ถ้าเราคิดว่าแผนที่เราอ่านไม่เหมาะสม และอยากจะเลิก ก็สามารถเลือกที่ Stop This Plan ครับ


ซึ่งเมื่อเราหมั่นเพียร อดทนทำตามแผนที่เราได้ตั้งใจไว้จนสำเร็จ App จะแสดงความยินดีกับเราในวันสุดท้ายที่เราอ่านจบตามแผน ตามภาพครับ



ในเมนูของ App YouVersion นี้ผมแนะนำให้ผู้ใช้ทำการสมัคร และ Sign in กับ App เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้ App YouVersion ในหลายๆอุปกรณ์ เช่นผมอ่านทั้งใน iPad และ iPhone แผนการอ่านของเราจะถูกอัพเดททั้ง 2อุปกรณ์เลยครับ เช่นวันนี้ผมอ่านใน iPad วันพรุ่งนี้ผมเปิดอ่านพระคัมภีร์ผ่าน App ใน iPhone แผนการอ่านต่างๆ และค่าที่Setting ไว้ก็จะอัพเดท และเหมือนใน iPad ทุกประการอย่างอัตโนมัติครับ นี่คือคุณสมบัติที่ดีมากครับ

และการ Setting ยังมีส่วนต่างๆที่เราสามารถปรับแต่ง ลูกเล่นได้เล่น การเลือกFont  เลือกขนาด เป็นต้นครับ ซึ่งลองทำเองตามอัธยาศัยครับ



สุดท้าย ผมขออวยพรให้เรา เหล่าสาวกของพระคริสต์ ที่ได้เคยตั้งใจไว้ว่าจะอ่านพระคัมภีร์ให้จบทั้งเล่มอย่างน้อย 1รอบในชีวิตนี้ ใช้เครื่องมือที่พระเจ้าประทานมาให้นี้ให้ดีที่สุดนะครับ อย่างที่บอกทุกครั้งว่า เราจะไม่สามารถมีข้ออ้างใดๆในการไม่อ่านพระวจนะ ที่เปรียบเสมือนอาหารฝ่ายจิตวิญญาณของเรา จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง ผมพบว่า เมื่อเราทานอาหารฝ่ายวิญญาณจิต ยิ่งทานมาก วิญญาณจิตเราก็ยิ่งเติบโต และแข็งแรงครับ อันจะส่งผลให้เกิดพระพรทั้งในชีวิตของเราและคนรอบข้าง ได้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น มีชีวิตที่บริสุทธิ์และชอบธรรมจริงๆครับ

พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง (2ทิโมธี3:16)

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รีวิว App Bible พระคัมภีร์ ภาษาไทย บนมือถือ ที่ดีที่สุดในขณะนี้ YouVersion

สวัสดีครับพี่น้องคริสเตียนไทย หลังจากเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว2011 ผมได้รีวิว App Bible พระคัมภีร์ ที่ดีที่สุดในขณะนั้นที่ชื่อว่า Bible.is แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า เทคโนโลยีมันก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก ระหว่างปีที่ผ่านมาก็ได้มีผู้พัฒนา App ใหม่ๆ ดีๆเกิดขึ้นอีกอันนึง ซึ่งส่วนตัวของผมได้ทดลองใช้มาหลายเดือน และประสบความสำเร็จในการอ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอขึ้นจากการช่วยเหลือของ App นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมมาก และสร้างความประทับใจให้ผมอย่างมากจนอดไม่ได้ที่จะต้องนำมารีวิว แนะนำ App นี้ให้พี่น้องคริสเตียนได้รู้จักครับ

เจ้า App ที่ว่านี้ชื่อว่า YouVersion ครับ โดยผมจะรีวิวในมุมของผู้ใช้ iOS ผ่าน iPad ของ  Apple เป็นหลักนะครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมใช้ iPad อ่านพระคัมภีร์เป็นหลัก และมีFuncion การใช้งานหลากหลายมากกว่า iPhone (อาจจะเนื่องจากจอที่ใหญ่กว่าครับ) ซึ่งผู้ใช้ OS อื่น หรืออุปกรณ์อื่นๆอย่าน้อยใจไปนะครับ เพราะการใช้งานจะคล้ายๆกันครับ โดยเจ้า App Bible พระคัมภีร์ ที่ชื่อว่า YouVersion นี้ เขามีให้  Download ให้ใช้สำหรับทั้ง iOS, BB, Androin, Windows และอื่นๆ ค่อนข้างครบทุกอุปกรณ์ครับ เยี่ยมสุดๆ ซึ่งคนที่อยากจะ Download สามารถหาโหลดได้โดย Search คำว่า "Bible YouVersion" ใน App Store ของท่านได้เลยครับ อ้อ...ที่สำคัญ ฟรีครับ ต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนี้ และทางผู้พัฒนาที่ชื่อว่า LiveChurch.tv ครับ



ซึ่ง App Bible พระคัมภีร์ ของ YouVersion นี้บอกว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ App นี้กว่า 50ล้านคนทั่วโลก มีพระคัมภีร์ภาษาต่างๆ 200กว่าVersion และแผนช่วยอ่านพระคัมภีร์อีกกว่า 200กว่าแผน ซึ่งผมก็ใช้แผนอ่านชุดผู้เผยพระวจนะน้อยทั้ง 12เล่ม จนจบไปตามที่ตั้งใจไว้แล้วครับ คุณสมบัติของ Appนี้ มีเยอะมากมาย จนผมคิดว่าคงต้องใช้เวลารีวิวหลายครั้งว่าจะจบครับ ไม่ว่าคุณสมบัติการเชื่อมต่อกับ Social Network ที่เราใช้ประจำเช่น Facebook, Twitter โดยถ้าเราอ่านข้อไหนแล้วโดนใจ ก็สามารถ Share ให้เพื่อนใน Facebook อ่านได้พร้อมกับ Comment เพิ่มเติมเป็นต้น หรือการให้ส่งอีเมล์มาเตือนการอ่านพระคัมภีร์ทุกๆวันตาม Plan ที่เราสมัครเอาไว้ซึ่งดีมากๆ สำหรับคนขี้ลืมครับ

การรีวิวนี้ผมจะอ้างอิงจากการใช้งาน App Bible พระคัมภีร์ YouVersion ใน iPad เป็นหลักนะครับ
ซึ่งควรจะใช้ในที่ๆมีอินเทอร์เน็ตด้วย ซึ่งจะมาจาก Wifi หรือ 3G ก็ตามแต่

เริ่มต้นจากการเปิด App ขึ้นมาจะมีหน้าตาดังรูปนะครับ



โดยการเลือกพระคัมภีร์ภาษาและ Version ต่างๆ เลือกที่แถบด้านขวาตามภาพเลยครับ


เมื่อเลือกแล้ว จะมีตัวเลือกภาษาออกมาให้เลือกครับ สำหรับภาษาไทย เลื่อนลงไปด้านล่างสุดเลยครับ


สังเกตด้านบนสุดจะมีคำว่า Recently Used หมายถึงเป็นส่วนของ Version พระคัมภีร์ที่เราใช้ไปล่าสุดนะครับ มีเอาไว้ให้เราเลือกใช้Version พระคัมภีร์ต่างๆสลับไปมาอย่างง่ายไม่ต้องไปเปิดหาด้านในอีก เหมาะสำหรับการอ่านศึกษาพระคัมภีร์แบบเทียบเคียงกัน หรือภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Parallel ซึี่ง YouVersion รองรับโหมดนี้ด้วย โดยผมจะรีวิวในตอนหลังนะครับ

ส่วนลงมา จะมีแถบที่เขียนว่า ภาษาไทย (5) ซึ่งหมายถึงพระคัมภีร์ Version ภาษาไทยมีทั้งหมด 5 Version โดยจะเรียงลงไปด้านล่าง โดยปัจจุบันที่ผมรีวิวอยู่นี้มีฉบับของ TNCV, TH1971, THSV, TKJV และ WBTH

สังเกตต่อมาด้านหลังพระคัมภีร์แต่ละ Version จะมี Icon สีเขียว และสีเทา นั่นคือ Icon ที่บอกเราว่า พระคัมภีร์ Version นั้นสามารถ Download มาเก็บไว้ในเครื่องได้ครับ นั่นหมายถึงกรณีถ้าเราไม่ได้เชื่อมต่อกับ Internet เราก็ยังสามารถอ่านพระคัมภีร์ Versionที่เราโหลดมาเก็บไว้ได้ ซึ่งฉบับไหนที่ Donwload แล้วจะเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีเทาครับ โดยในเวอร์ชั่นภาษาไทยนี้ จะมี 3ฉบับ ที่ให้Download ได้คือ TH1971, THSV และ TKJV ก็จัดการโหลดมาให้ครบอย่าให้เสียของ(ฟรี)ครับ


เมื่อกด Download จะขึ้นมาเป็นหน้าต่างดังภาพครับ ก็กดโหลดโลดครับ


จะขึ้นเป็นแถบโหลดใช้เวลาไม่นานครับ


โหลดเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าต่างนี้ครับ



ต่อไปก็ลองมาดู Version ภาษาอังกฤษนะครับ ซึ่งปัจจุบันมีพระคัมภีร์อยู่ 29 Version ครับ ซึ่งลองสังเกตนะครับว่า หลังพระคัมภีร์บางอัน จะมีตัวรูปสัญลักษณ์ลำโพง นั่นหมายถึง พระคัมภีร์ Version นั้นสามารถอ่านเป็นเสียงให้เราฟังได้ครับ (ตอนนี้ภาษาไทยยังไม่มีนะครับ แต่หวังว่าในอนาคตจะมี) ใครอยากฟังก็กดเลือกพระคัมภีร์นั้นก่อนนะครับ



จากตัวอย่างนี้ ผมเลือกพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษ Version ของ NIV พอเลือกแล้ว สังเกตด้านล่างสุดขวามือ จะมีสัญลักษณ์ลำโพงอยู่ กดเลยครับถ้าอยากฟังพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษ


เมื่อกดแล้ว จะขึ้นหน้าต่างแถบด้านล่าง ก็กด Play ฟังได้เลยตามอัธยาศัยครับ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเชื่อมต่อกับ Internet อยู่นะครับ 



คราวนี้กลับมายังพระคัมภีร์ภาษาไทยที่ผมเลือกใช้ประจำคือ Version ของ THSV จะมีส่วนนึงที่เยี่ยมมากครับ ส่วนเชิงอรรถ อธิบายเพิ่มเติม ซึ่งจะปรากฎเป็นรูปสัญลักษณ์ช่องคำพูดด้านหลังพระคัมภีร์บางข้อ ซึ่งเมื่อเราแตะตัว Icon นั้นปุ๊บ ก็จะขั้นหน้าต่างมาอธิบายความหมายเพิ่มเติม หรือเป็นหัวข้อพระคัมภีร์เชื่อมโยงกัน ซึ่งเหมาะมากกับผู้อ่านพระคัมภีร์แบบศึกษาค้นคว้าครับ



ต่อมาก็คือแถบที่ใช้เลือกพระคัมภีร์เล่มต่างๆ ซึ่งให้สังเกตด้านล่างจะมีแถบ 2อันที่เขียนว่า  Traditional เป็นการเรียงพระคัมภีร์ตามการจัดเรียงปกติจาก ปฐมกาล-วิวรณ์ 


และ Alphabetical เป็นการเรียงพระคัมภีร์ตามตัวพยัญชนะอักษรแทน ซึ่งหมายถึงเล่มแรกจะเป็นตัวอักษร กอไก่ (กันดารวิถีขึ้นก่อน) หรือถ้าภาษาอังกฤษก็จากตัว A


เมื่อกดเลือกเล่มพระคัมภีร์ได้แล้วก็จะขึ้นมาเป็น Chapters หรือ บท และ Verses หรือ ข้อที่เราจะต้องการไปอ่านครับ


ซึ่งถ้ากดที่แถบด้านบนที่เป็นตัวเลขก็คือ เลือกเฉพาะบท และข้อ ในพระคัมภีร์เล่มปัจจุบันที่เราอ่านอยู่ครับ ไม่ต้องเสียเวลาออกไปเลือกเล่มซ้ำใหม่ สะดวกสบาย


คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่ดีมากของพระคัมภีร์ YouVersion ก็คือ การHilight ข้อพระคัมภีร์ที่เราสนใจ โดยการเอานิ้วจิ้มไปที่ข้อนั้นๆ ก็จะขึ้นแถบสีเทาๆ โปรดสังเกตด้านมุมบนขวามือ จะมี Icon พร้อมตัวเลขขึ้นมา จากภาพเป็นเลข 1 หมายถึงผมเลือกพระคัมภีร์ 1ข้อ ซึ่งเราสามารถเลือกพร้อมๆกันหลายข้อได้ครับ ถ้าผมเลือก 3 ข้อ ตัวเลขก็จะเปลี่ยนเป็น 3แทน โดยตรงนั้นจะเป็นส่วนที่เราสามารถเลือกแตะเข้าไปได้ครับ


เมื่อแตะ ก็จะขึ้นเป็นหน้าต่างดังภาพ และมีแถบเมนูดังนี้


Share หมายถึงเราสามารถแชร์ข้อความที่เราเลือกออกไปให้เพื่อนๆคนอื่นดูได้ โดยมีให้เลือกว่าจะแชร์ไปยัง Twitter, Facebook, Email, SMS 



โดยผมเลือกจะแชร์ให้เพื่อนใน Facebook ก็จะขึ้นหน้าต่างมา ให้เราสามารถเขียนNote ลงไปเพิ่มเติมตามอัธยาศัยครับ ซึ่งตรงนี้จะใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมาก ตั้งแต่การส่งข้อพระคัมภีร์หนุนใจให้เพื่อน พร้อมกับข้อความของเรา หรือการส่งการบ้านเฝ้าเดี่ยวให้กับพี่เลี้ยงก็ใช้ได้ครับ เมื่อเชียนเสร็จแล้วก็กด Send ด้านขวาบนเลยครับ 

อ้อ!! อย่าลืมกด Enable ในแถบเมนูด้านล่างก่อนนะครับ เพื่อเป็นการอนุญาตให้ App นี้ เชื่อมต่อกับ Social Network ของเราครับ


อีกอันที่เด่น ก็คือ การทำแถบสี Hilight ส่วนตัวของเราเองกับพระคัมภีร์ของเราใน App นี้ครับ คล้ายๆกับตอนที่เราอ่านพระคัมภีร์ที่เป็นหนังสือ หลายคนก็มักจะมีการขีดเส้นใต้ หรือสวยๆก็จะใช้ปากกา Hilight ข้อพระคัมภีร์ที่น่าสนใจครับ โดยเราเลือกสีได้ตามความชอบเลยครับ หรือบางคนอยากจะทำ Bookmark ก็สามารถทำได้ครับ


ใส่แถบสี


ในส่วนการ Note ข้อพระคัมภีร์ข้อใดนั้น ถ้าเราเชื่อมต่อ Internet อยู่ ก็จะปรากฏหัวข้อคนอื่นๆทั่วโลกที่เขาเคย Note หัวข้อพระคัมภีร์เดียวกับเราขึ้นมาด้านซ้ายด้วยครับ 



โดยการที่เราจะทำ Note และเปิดเผยให้คนอื่นอ่านด้วย ก็ต้องเลือกในเมนู Note และเลือก Status ให้เป็น Public ครับ หรือถ้าอยากส่วนตัวเก็บไว้อ่านคนเดียวก็เลือก Private 





วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

คริสเตียนไทยกับยุคสุดท้ายในประเทศไทย





ผมขอบคุณพระเจ้าสำหรับการที่มีคนสมัครสมาชิก และติดตามอ่านบทความในเว็บ "สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า..."คริสเตียน"" ครบ 80คนแล้วครับ ตอนนี้มีผู้เขียนบทความอยู่ 2คนครับ คือผมกับคุณนุชซึ่งผมเชิญมาเขียนด้วย เพราะแต่ละคนก็จะมีมุมมอง และแง่คิดในการดำเนินชีวิตคริสเตียนแตกต่างกัน ในอนาคตอันใกล้ ผมก็ยังอยากเชิญอีกหลายท่านเข้ามาร่วมเขียนบทความเพื่อเพิ่มความหลากหลายมากขึ้นครับ


หลายๆครั้งผมมักจะมีไอเดีย หรือแง่มุมคิดที่โผล่ปั๊บขึ้นมาทันทีทันใด เสียดายที่ผมไม่รีบเขียน ความคิดนั้นก็เลยลืมไปบ้าง หายไปบ้าง ก็เลยมาคิดว่า ในการดำเนินชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน เหมือนพระคัมภีร์ พระเจ้าก็ตรัสไว้ว่า ยากอบ 4:14 แต่ว่าท่านไม่รู้เรื่องของพรุ่งนี้ ชีวิตของท่านเป็นเช่นใดเล่า ท่านก็เป็นเช่นหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็หายไป และสิ่งใดที่อยากทำแล้วไม่รีบทำซะ เราอาจจะไม่มีโอกาสทำสิ่งนั้นอีกเลย


ยิ่งในช่วง 2-3ปีมานี้ เราเผชิญกับปรากฎการณ์ต่างๆที่ถ้ามาพิจารณาแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ปกติเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ประท้วง เผาบ้านเผาเมือง ที่แม้ปัจจุบันก็ไม่ได้เรียกว่าสงบหรือจบสิ้น ปัญหาต่างๆยังคงอยู่รอวันปะทุขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน 






เหตุการณ์ภัยธรรมชาติ ต้นปี54ที่เกิดสึนามีที่ประเทศญี่ปุ่น มาปลายปีที่เกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50ปี มีถึง 38จังหวัด หรือเรียกได้ว่า ครึ่งประเทศที่ประสบปัญหาน้ำท่วมที่โหดร้ายรุนแรง








ผมว่าอย่าให้เราหลงลืมสิ่งเหล่านี้ครับ ใช่ที่เราจะต้องปรับตัวเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป แต่ต้องเอาบทเรียนที่เกิดขึ้นนี้มาดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังครับ สิ่งใดที่เราคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นแล้ว และสิ่งที่เราคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ 




ใครจะพยากรณ์สิ่งใดที่เป็นหมอดูหมอเดาผมไม่เคยเชื่อครับ แต่อาจจะเป็นประเภทฟังหูไว้หูถ้ามาจากนักวิทยาศาสตร์ เพราะอย่างหนึ่งที่เราต้องยอมรับว่า โลกเรากำลังเปลี่ยนไปครับ สภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม(โลกร้อน ขั้วโลกเปลี่ยน พายุสุริยะ ฯลฯ) สิ่งหนึ่งที่เรายึดถือ และเชื่อมั่นก็คือพระคัมภีร์ได้พยากรณ์ถึงสิ่งเหล่านี้ไว้อยู่แล้วว่า ยุคสุดท้ายจะเกิดภัยพิบัติต่างๆ รุนแรงขั้น ถี่ขึ้น โดยเปรียบเทียบง่ายๆเหมือนกับ "หญิงมีครรภ์ใกล้คลอด" และสิ่งนี้ก็มาถึงจริงๆครับ 






ในพระคัมภีร์จะมีหลายส่วน หลายบท หลายผู้พยากรณ์ ที่พูดถึงเรื่องราวของยุคสุดท้าย ท่านสามารถหาอ่านประกอบได้จากหนังสือคริสเตียนหลายๆเล่มทั้งที่คนไทยเขียนเอง และมีการแปลมาจากภาษาต่างประเทศนะครับ แต่บทหนึ่งที่สำคัญ ที่ผมอ่านและเข้าใจง่ายๆมากที่สุดก็คือ พระธรรมมัทธิวบทที่ 24ทั้งบท ซึ่งผู้ที่พยากรณ์ก็คือองค์พระเยซูคริสต์ครับ



1ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากบริเวณพระวิหาร แล้วขณะเสด็จไป พวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลาย ในบริเวณพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร
2พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็ไม่มี"
3เมื่อพระเยซูประทับบนภูเขามะกอกเทศ พวกสาวกมาเฝ้าส่วนตัวกราบทูลว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และยุคเก่าจะสิ้นสุดลง"
4พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้หลง
5ด้วยว่าจะมีหลายคนมา ต่างอ้างนามของเราว่าตัวเขาเป็นพระคริสต์ เขาจะให้คนเป็นอันมากหลงไป
6ท่านทั้งหลายจะได้ยินเสียงสงคราม และข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังไม่มาถึง
7เพราะ ประชาชาติต่อประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อราชอาณาจักรจะต่อสู้กัน ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ
8เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก ซึ่งต้องมีมาก่อนกำเนิดยุคใหม่
9"ในเวลานั้นเขาจะอายัดท่านทั้งหลายไว้ ให้ทนทุกข์ลำบากและฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆจะเกลียดชังพวกท่าน เพราะความจงรักภักดีของท่านที่มีต่อเรา
10คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไป และอายัดกันและกันทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกันด้วย
11ผู้เผยพระวจนะปลอมหลายคนจะเกิดมีขึ้น และล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
12ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป
13แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด
14ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า จะได้ประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง
15"เหตุฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายเห็นสิ่งอันน่าสะอิดสะเอียน ซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติ ตามพระวจนะที่ตรัสโดยดาเนียลผู้เผยพระวจนะนั้นตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์ (ให้ผู้อ่านเข้าใจเอาเถิด)
16เวลานั้นให้ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปยังภูเขา
17ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าหลังคาตึก อย่าให้ลงมาเก็บข้าวของออกจากตึกของตน
18ผู้ที่อยู่ตามทุ่งนา อย่าให้กลับไปเอาเสื้อผ้าของตน
19แต่ในวันเหล่านั้น อนิจจา น่าสงสารหญิงที่มีครรภ์ หรือมีลูกอ่อนกินนมอยู่
20จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือในวันสะบาโต
21ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และในเบื้องหน้าจะไม่มีต่อไปอีก
22ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า
23ในเวลานั้นถ้าผู้ใดจะบอกพวกท่านว่า "แน่ะ พระคริสต์อยู่ที่นี่" หรือ "อยู่ที่โน่น" อย่าได้เชื่อเลย
24ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จ และผู้ทำนายเทียมเท็จหลายคนเกิดขึ้น ทำหมายสำคัญอันใหญ่และการมหัศจรรย์ ล่อลวงแม้ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรให้หลง ถ้าเป็นได้
25ดูเถิดเราได้กล่าวเตือนท่านทั้งหลายไว้ก่อนแล้ว
26เหตุฉะนั้นถ้าใครจะบอกท่านทั้งหลายว่า "ท่านผู้นั้นอยู่ในถิ่นทุรกันดาร" ก็จงอย่าออกไป หรือจะว่า "อยู่ที่ห้องใน" ก็จงอย่าเชื่อ
27ด้วยว่าฟ้าแลบมาจากทิศตะวันออก ส่องไปจนถึงทิศตะวันตกฉันใด การเสด็จมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นฉันนั้น
28ซากศพอยู่ที่ไหน ฝูงนกแร้งก็จะตอมกันอยู่ที่นั่น
29"แต่พอสิ้นความทุกข์ลำบากแห่งวันเหล่านั้นแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้าน
30เมื่อนั้นนิมิตแห่งบุตรมนุษย์ จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้า มนุษย์ทุกชาติทั่วโลกจะตีอกร้องไห้ บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า ทรงฤทธานุภาพและพระสิริเป็นอันมาก
31พระองค์ทรงใช้เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ มาด้วยเสียงแตรอันดังยิ่งนัก ให้รวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้แล้ว ทั้งสี่ทิศนั้น ตั้งแต่ที่สุดฟ้าข้างนี้จนถึงที่สุดฟ้าข้างโน้น
32"จงเรียนคำเปรียบเรื่องต้นมะเดื่อ เมื่อแตกกิ่งแตกใบ ท่านก็รู้ว่าฤดูร้อนใกล้จะถึงแล้ว
33เช่นนั้นแหละ เมื่อท่านทั้งหลายเห็นบรรดาสิ่งเหล่านั้นก็ให้รู้ว่า พระองค์เสด็จมาใกล้จะถึงประตูแล้ว
34เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนสิ่งทั้งปวงนั้นบังเกิดขึ้น
35ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย
36"แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว
37ด้วยสมัยของโนอาห์ ได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา ก็จะเป็นอย่างนั้น
38เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา
39และน้ำท่วมมากวาดเอาเขาไปสิ้น โดยไม่ทันรู้ตัวฉันใด เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นฉันนั้น
40เมื่อนั้นชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง
41หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง
42เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านจะเสด็จมาเวลาไหน
43จงจำไว้ว่า ถ้าเจ้าของบ้านล่วงรู้ได้ว่าขโมยจะมายามไหน เขาจะตื่นอยู่และระวัง ไม่ให้ทะลวงเรือนของเขาได้
44เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะในโมงที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา
45"ใครเป็นทาสสัตย์ซื่อและฉลาด ที่นายได้ตั้งไว้เหนือพวกบ่าวทาสสำหรับแจกอาหารตามเวลา
46เมื่อนายมาพบเขากระทำอยู่อย่างนั้น ทาสผู้นั้นก็จะเป็นสุข
47เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแลบรรดาข้าวของของท่าน
48แต่ถ้าทาสนั้นชั่วและคิดในใจว่า "นายของข้ามาช้า"
49แล้วจะตั้งต้นโบยตีเพื่อนทาสและกินดื่มอยู่กับเพื่อนขี้เมา
50นายของทาสผู้นั้น จะมาในวันที่เขาไม่คิดในโมงที่เขาไม่รู้
51และจะทำโทษเขาถึงสาหัส ทั้งจะขับไล่ให้เขาไปอยู่ในที่ของพวกคนหน้าซื่อใจคด ซึ่งที่นั่นจะมีแต่การร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ผมค่อนข้างห่วงคริสเตียนไทยโดยตรง เนื่องจากมิติทางการเมือง และภัยธรรมชาติของประเทศเรานั้น ยังครุกรุ่นมากครับ เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรในเหตุการณ์เหล่านี้

อย่างแรกเลย ผมเห็นความแตกแยกทางความคิดเรื่องของการเมืองอย่างชัดเจนในหมู่คริสเตียน แบ่งสีเสื้อกัน แต่เราก็ยังปรับตัวว่าจะไม่คุยเรื่องการเมืองเหล่านี้ในระหว่างพี่น้องคริสเตียน เพราะไม่อย่างนั้นจะทะเลาะกันแน่ ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมยังกังวลก็คือเรื่องแนวคิดสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปัจจุบันมีการจุดกระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 และอื่นๆอันจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะของพระมหากษัตริย์ครั้งใหญ่เกิดขึ้น แนวคิดนี้คิดว่าคงจะไม่หยุดอย่างแน่นอนเพราะมีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง โดยฐานะของพระมหากษัตริย์ตอนนี้ยังได้รับการหนุนหลังจากทหารและกองทัพอยู่ แต่....ในอีกไม่นาน ถ้าเกิดการเปลี่ยนรัชกาล ผมยังเดาไม่ออกเลยว่า กองทัพจะยังจงรักภักดีต่อองค์รัชกาลใหม่เหมือนกับในหลวงรัชกาลปัจจุบันหรือไม่ 



ซึ่งถ้าคุมเรื่องนี้ไม่อยู่แล้ว จะเกิดการปะทะระหว่างผู้สนับสนุนราชบัลลังค์ และกลุ่มผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปสู่ระบอบรัฐไทยใหม่ครับ ผมห่วงว่าการปะทะกันจะไม่ใช่แบบเดิมอีกต่อไปเพราะเราเห็นและมีประสบการณ์การชุมนุมมา3-4ปีทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดงในครั้งก่อน แต่การชุมนุมและปะทะกันจะเกิดเป็นสงครามกลางเมืองในครั้งใหม่อย่างแน่นอนครับ เพราะอย่างที่เห็นอยู่ว่าในการชุมนุมครั้งล่าสุดได้มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาแล้ว มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมแตะ100คนทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน




ถามว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คริสเตียนไทยจะอยู่อย่างไรครับ 

ต่อมาก็เป็นเรื่องภัยภิบัติธรรมชาติ ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น 3-4เดือนเมื่อปลายปี 54 เป็นเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าตึงเครียดมากทั้งผู้ประสบเหตุ และผู้ที่ติดตามเหตุการณ์ ผมคนนึงที่ดูข่าวในแต่ละวัน ไม่มีข่าวดีเลยครับ น้ำท่วมไปทุกที่ และไปถึงอย่างรวดเร็ว ไม่มีที่ใดที่ป้องกันเอาไว้ได้ มีแต่จะต้องอพยพ หรือเยียวยากันอย่างไรเท่านั้น ผมเห็นถึงความล้มเหลวของภาครัฐ ที่จะรับมือต่อเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ มีแต่ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่ต้องออกมาช่วยเหลือกันเอง โดยมีทหารเป็นกำลังหลักเท่านั้น




คิดถึงเหตุการณ์ภัยธรรมชาติอื่นๆที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือเปล่าครับ หลายคนอาจจะเตรียมตัวรับมือน้ำท่วมครั้งใหม่ในปีหน้าที่จะถึงนี้ แต่ผมไม่อยากให้ประมาทถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว หรือสึนามิที่อาจจะซัดเข้ามาทางฝั่งอ่าวไทยบ้าง ซึ่งคลื่นอาจจะรุนแรงคือซัดเข้ามาจนถึงเขตกรุงเทพชั้นในเพื่อความเท่าเทียมกันสำหรับเขตที่ไม่โดนน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา (ขำๆนะครับ)



ในช่วงน้ำท่วม ผมถึงกับเตรียมซื้อเครื่องปั่นไฟ เรือ อุปกรณ์ยังชีพฉุกเฉิน วิทยุสื่อสารเผื่อการสื่อสารล่ม ฯลฯ เป็นสิ่งที่เตรียมพร้อมเอาไว้ แม้ว่าน้ำจะไม่ได้มาท่วมทางเขตบางนาบ้านของผมก็ตาม แต่ก็คิดว่าไม่ประมาท "มีแล้วไม่ได้ใช้ ยังดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี"ครับ



แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นนอกจากการเอาชีวิตรอดของตัวเราและครอบครัวของเราแล้ว สิ่งนึงที่คริสเตียนไทยไม่ควรลืมก็คือ หน้าที่ของคริสเตียน ในการประกาศข่าวประเสริฐในยุคสุดท้าย เพื่อนำคนมาถึงความรอดให้มากที่สุดก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปครับ ผมยังนึกถึงคุณยายคนนึงสมัยผมเป็นวัยรุ่นยังขึ้นรถเมล์ มีคุณยายท่านนึงมานั่งคุยกับผมบนรถเมล์เพื่อจะประกาศข่าวประเสริฐกับผม ผมบอกคุณยายไปว่า คุณยายครับ ผมรับเชื่อเป็นคริสเตียนอยู่แล้วครับ คุณยายดีใจมากบอกกับผมว่าจงรักษาความเชื่อเอาไว้จนวันสุดท้าย และประกาศข่าวประเสริฐนี้กับคนอื่นๆด้วย ผมยังคำคุณยายท่านนั้นได้จนวันนี้ครับ และเชื่อว่านี่คือหน้าที่หลักของเราคริสเตียนไทย ในยุคสุดท้ายนี้ครับ 



"มีชีวิตก็อยู่เพื่อพระคริสต์ และการตายนั้นเราก็ได้กำไร" อย่างที่อาจารย์เปาโลได้พูดเอาไว้ครับ