ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมมักจะได้ยินพวกผู้ใหญ่เขาพูดว่า "เด็กสมัยนี้เข้าใจมันยากจริงๆ" แล้วผมก็คิดในใจว่า "จะเข้าใจยากยังไง พวกผู้ใหญ่ก็เป็นเด็กมาก่อนไม่ใช่เหรอ"
แต่ตอนนี้พอผมเริ่มเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มั่ง อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ ก็เริ่มค้นพบสัจธรรมแล้วว่า "เด็กสมัยนี้มันเข้าใจยากจริงๆ" ซึ่งผมพอจะเข้าใจว่า "สาเหตุ" ของความไม่เข้าใจนั้นก็คือ เรื่องของ"ยุคสมัย" มันไม่เหมือนกันครับ คืออย่างนี้......ผมจะอธิบายให้ฟัง แบ่งช่วงวัยรุ่นของแต่ละรุ่น
สมัยของพ่อ-แม่เรา ตอนนั้นสังคมมันมีอะไรบ้างในช่วงปี2500-2520
1. ดนตรี เอลวิส , สี่เต่าทอง , สุนทราภรณ์ , สตริงคอมโบเช่น รอยัลสไปรท์ ชาตรี ลูกทุ่งก็พวก สุรพล สมบัติเจริญ เต้นรำแบบดิสโก้ ร๊อคแอนโรล ช่วงนี้จะมีพวกยุคคาเฟ่ อาบ-อบ-นวด สงครามเวียดนาม
2. ภาพยนต์ เป็นขาวดำแต่ส่วนใหญ่จะ Hollywood , สมบัติ เมทนี, มิตรชัย บัญชา, เพชรา
3. สังคม ค่านิยม แฟชั่น ก็ยังเป็นแบบแต่งตัวมิดชิด กางเกงขาเดฟ ขาบาน เสื้อแขนยาวปกใหญ่ๆ รัดรูป(ผู้ชาย) จับมือถือแขนในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ สอนการรักนวลสงวนตัว
4. การติดต่อสื่อสาร มีแต่โทรศัพท์บ้านระบบหมุนด้วยนิ้ว(ใครยังจำกันได้มั่ง) ไม่ก็ยังต้องพึ่งพาไปรษณีย์ จดหมาย โทรเลข จะส่งเงินก็ต้องธนาณัติ ตั๋วแลกเงิน(ใครเคยใช้มั่ง)
สมัยของผม ช่วงปี 2520-2540
1. ดนตรี Rock , Pop ช่วงนี้จะพวก Boy Band Girl Group เยอะ เริ่มมีพวกBreak Dance, Rap ของไทยก็จะเริ่มด้วย วงแกรนด์X พี่แจ้, พี่เบิร์ด หาดทรายสายลม สบายๆ, นูโว, ไมโคร, อัศนี-วสันต์ ช่วงนี้จะเป็นช่วงการเกิดผับ-บาร์ RCA
2. ภาพยนต์ เป็นสีแล้วและเป็นพวกรักวัยรุ่นส่วนใหญ่ของไทยๆ เช่น ซึมน้อยหน่อยฯ, กลิ่นสีกาวแป้ง, มอ6/12, กระโปรงบานขาสั้น ยุคเต๋าสมชาย, มอส, แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ หนังโป๊หาดูยากมาก ต้องอาศัยแอบหาตามจตุจักร เป็นม้วนวีดีโอเทป "โป๊มั้ยน้องๆ"
3. สังคม ค่านิยม แฟชั่น เริ่มเป็นเสื้อยืดเข้ารูปมากขึ้น กางเกงยีนส์ขาม้า ขากระดิ่ง(ใครจำได้) เสื้อแขนกุดเริ่มเข้ามาสำหรับผู้หญิง ตอนปลายๆ ปี40 จะยุคต้นของสายเดี่ยว การจับมือเดินของวัยรุ่นหนุ่มสายเป็นสิ่งที่เริ่มยอมรับได้ว่าเป็นเรื่องปกติ
4. การติดต่อสื่อสาร ผมยังอยู่ตอนเริ่มใช้เพจเจอร์ แพคลิงค์ตั้งแต่เป็นแค่ตัวเลข มาเป็นระบบข้อความ ต้องโทรไปบอกข้อความให้ใครก็ไม่รู้เพื่อให้เขาพิมพ์ส่งให้ บางทีจะหยอกเพื่อนสักหน่อย พวกคำผวนก็เจอจะ "คำไม่สุำภาพไม่อนุญาตนะคะ" แหะๆ คร้าบ ผมผิดไปแล้วครับ
สมัยปัจจุบัน ปี2540-2552
1. ดนตรี โอยมีหลากหลายมาก พวกRockก็จะไปแบบที่เรียกว่า"ว๊ากเกอร์" ที่ตะโกนเสียงแหบๆ HipHopก็มาแรง เทรนเกาหลี ฟังไม่ออกหรอก แต่ร้องได้ การเต้นที่นิยม ก็คือ "โคโยตี้"ครับ คือเต้นที่Sexy ยั่วยวน โอย...ดูแล้วความดันขึ้นครับ ฮ่าๆ
2. ภาพยนต์ พวกการ์ตูนแบบเดิมไม่มีแล้ว เดี๋ยวนี้จะเป็นแบบ Animate คอมพิวเตอร์เยอะ ยิ่งพวกCGคอมพิวตอร์กราฟฟิกแทบทุกเรื่อง ฉากรุนแรง ฉากจูบ ฉากโป๊ ดูได้ดาษดื่นครับ ยิ่งโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต หาโหลดดูกันตามอัธยาศัย หนังโป๊ไม่ต้องดูแล้วครับ หาคลิปบรรดาชาวบ้าน-ดาราที่ถ่ายหลุดออกมา เร้าใจกว่าเยอะ
3. สังคม ค่านิยม แฟชั่น ผ้าน้อยชิ้นเหลือเกิน การเห็นหน้าอกหน้าใจ ไม่ถือว่าผิด มีข้อแม้เท่านั้นคือห้ามเห็น"หัวนม"ไม่งั้นเรียกว่าโป๊ โอ้ บร๊ะเจ้า(ศัพท์เกรียนเดี๋ยวมีสอนครับ) กระโปรงสั้นจู๋มาก เห็น กกน.ไม่เป็นไร ขออย่างเห็นHairก็พอ.... -_-" ไม่ไหวแล้วครับ ดาราันักแสดงหละตัวดีเลย ค่านิยมไปเร็วมาก เรื่องจูบกันหอมกันในที่สาธารณะเริ่มมีให้เห็นแล้ว แต่จะพบได้เสมอเมื่อไปผับ หรือบาร์ ค่านิยมการมีSexเมื่อแต่งงานแล้วเท่านั้น ผมพบว่าใครที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา จะโดนตำหนิทันทีว่าหัวโบราณ... อืมมมม
4. การติดต่อสื่อสาร ผมพบว่าไม่มีใครที่ติดต่อไม่ได้แล้วครับ.... แม้กระทั่งขอทานเขมรก็ยังมีโทรศัพท์มือถือ จากสมัยก่อนโทรศัพท์ราคาเป็นแสน ตอนนี้ 500บาทก็หาซื้อได้แล้วครับ(มือสอง) ซิมแจกฟรี เออคุณพ่อคุณแม่ครับ โทรเลขไม่มีแล้วนะครับ ที่ไปรษณีย์เขาเพิ่งยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว.... และอินเทอร์เน็ตสำหรับคนที่อาศัยในเมืองใหญ่ ไม่มีใครที่ไ่ม่เล่นครับ อีเมล์มีกันทุกคนแน่นอน
เกริ่นมาซะตั้งนาน เราจะพบว่า แค่ผ่านมาประมาณ 50ปี อะไรๆมันเปลี่ยนไปหมด และเปลี่ยนไปอย่างมากมายและรุนแรง ดังนั้นการที่เราจะไปเข้าใจคนรุ่นใหม่นั้น มันต้องใช้ความพยายามมากเลยครับ ผมก็อาศัยศึกษาเรียนรู้พวกเขาทั้งในชีวิตส่วนตัวและผ่านทางข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ
ผมมีคำถามมาถามผู้อ่านครับว่า เคยได้ยินคำว่า "เกรียน" ไหมครับ รู้หรือเปล่าว่ามันหมายถึงอะไร
ถ้าคุณไม่เคยได้ยิน ก็ต้องยอมรับต่อตัวเองนะครับว่าคุณไ่ม่ค่อยได้พบปะกับวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่เลย
ถ้าคุณเคยได้ยิน แต่ไม่เข้าใจความหมาย แสดงว่าคุณเคยพบปะวัยรุ่น แต่ไม่ได้ใช้เวลาหรือสังคมกับพวกเขา
เกรียนหรือศักดิเกรียน เป็นคำสแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก่อกวน ก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต โดยมักจะแสดงออกในลักษณะที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนเด็กไม่ได้รับความสนใจ บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง
คำว่า เกรียน มาจากทัศนคติของบุคคลที่เป็นเด็กนักเรียนชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมดังกล่าวอยู่บ่อยๆ และกลุ่มบุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และยังเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์อีกด้วย เมื่อถูกเรียกบ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุ มีการเปรียบเทียบว่า เกรียน คล้ายกับลักษณะของ นู้บ (noob, n00b) หรือ นูบี (newbie) ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลในอินเทอร์เน็ตตามเว็บบอร์ด หรือเกมออนไลน์ ที่มักจะเป็นคนใหม่และทำตัวเหมือนรู้ทุกเรื่อง (แต่ไม่ได้รู้จริงหรือไม่รู้เลย)
อาการของเกรียน
- ชอบเรียกร้องความสนใจ ไม่รู้จักมารยาทในสังคม ด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผลแบบผีเจาะปากมาพูด เกรียนบางคนมักจะกล่าวหาว่าผู้อื่นเป็นเกรียน เพื่อโยนความเกรียนให้แก่ผู้อื่น และปกป้องตนเองว่าตนเองไม่ได้เป็นเกรียน
- มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รู้จัก หรือรู้จัก แต่ไม่มีมารยาทในสังคม ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ ทั้ง ๆ ที่เป็นความเชื่อที่คนปกติไม่คิดกัน
- มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ หรือมักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ เพราะภูมิคุ้มกันทางสังคมต่ำและได้รับการอบรมมาน้อย หรือได้รับการอบรมมามากจนชินชาและจะปฎิเสธการอบรมต่างๆ
- มักจะอวดเก่งว่าตัวเองไม่เคยกลัวอะไร แต่เมื่อเจอเข้าจริงๆ กลับกลัวหางจุกตูด
- ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์ในเว็บไซต์) มากกว่าทางความคิด เนื่องจากเป็นพวกไม่มีสมอง จึงคิดไม่เป็น
- มี EQ ติดลบ และ IQ เป็นศูนย์ เนื่องจากใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล
- ชอบสร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งโดยไร้เหตุผลพื้นฐานที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง เหตุผลก็อย่างที่บอก พวกนี้มันไร้สมอง
- มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง (หรือกระทั่งสร้างเว็บไซต์รวมกลุ่มโดยเฉพาะ) เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม