วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

Letter to You....


ณ วันนั้น ฉันนั่งลงเขียนจดหมาย

ฉันเขียนบอกกับเธอไปว่า

“…จะให้เราทำจริงหรอ ทำไม่ได้หรอก เราก็เป็นเพียงแค่น๊อตตัวเล็กๆ ตัวนึง
สิ่งที่ให้ทำมันเกินความสามารถเกินไปนะ เอาอะไรที่ง่ายๆ กว่านี้มีไหม ส่วนสิ่งนี้ให้คนอื่นทำเถอะ …”

มันเป็นความในใจที่ฉันเขียนบอกเธอไปอย่างนั้น แล้วเวลาก็ผ่านไป…


วันนี้ ก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงฉัน … … จดหมายจากเธอ นั่นเอง


Dear Blue


.... เราได้รับจดหมายจากเธอแล้วนะ

ที่เธอคิดว่าเธอเป็นเพียงน๊อตตัวนึงที่คงทำบางสิ่งบางอย่างที่เราให้ทำไม่ได้หรอก

เธอคิดถูกแล้วที่เธอเป็นน๊อตตัวนึง แต่ไม่ถูกที่คิดว่าเธอทำไม่ได้

อยากให้จำไว้นะบลู เธอต้องเรียนรู้ที่จะเข้าสนิทอยู่ในการทรงสถิตของเราโดยไม่มองดูที่ตัวเอง
เธอจะไม่สามารถฟังเสียงเราหรือพูดกับเราได้หากเธอยังมัวแต่มองดูที่ตัวเองอยู่

เพราะจะทำให้ทุกเวลาเธอรู้สึกและเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เราเรียกให้เธอทำ

แต่ไม่ใช่เพราะความพร้อมหรือความมั่นใจว่าตัวเธอทำได้หรอกนะที่จะทำให้เราใช้เธอ

อย่ามองดูที่ความไม่พร้อมของตัวเองซิ แต่จงมองดูความเพียบพร้อมบริบูรณ์ของเรา

และหยุดต่อว่าตัวเองว่าไม่ดีพอ แต่จงมองดูความชอบธรรมของเรา
เมื่อเราใช้เธอ นั่นไม่ใช่เพราะตัวเธอ แต่เพราะเราเอง

.... เธอคงรู้สึกว่าเราไม่พอใจในหลายๆ ครั้งเมื่อเธอเริ่มมองดูที่ตัวเอง

นี่คงเป็นความไม่พอใจเดียวกับที่เรามีต่อโมเสส เมื่อเขาเริ่มบ่นถึงความไม่พรักพร้อมของตัวเอง

สิ่งเหล่านี้แสดงว่า เธอมองดูตัวเองมากกว่ามองดูเรา

เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ บางครั้งเราไม่สามารถใช้บางคนเพื่อทำบางสิ่งได้ในบางเวลา

ก็เพราะเขาไม่เห็นคุณค่าตัวเองว่าเราใช้เขาได้ ซึ่งบางทีอาจมองเป็นความถ่อมใจ

แต่เป็นความถ่อมใจอย่างผิดๆ

ซึ่งความถ่อมใจที่ผิดนี้ เป็นรูปแบบหนึ่งของความเย่อหยิ่งซึ่งทำให้มนุษย์ล้มลงในความบาป

ลองมองดู อาดัมและเอวาซิ พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ครบถ้วนของตัวเอง

และต้องการเป็นมากกว่าที่เราได้สร้างเขามา เขาเลยล้มลง




.... ดังนั้น

มั่นใจนะ อย่าคิดว่าทำไม่ได้

หากเราใช้ วางใจในเราซิ

ให้เราสร้างเธอในแบบที่เธอควรจะเป็น

จำไว้นะ ว่าเมื่อเราใช้เธอ

นั่นไม่ใช่เพราะตัวเธอพร้อม

แต่เพราะเรามั่นใจว่าเธอทำได้ .....

ลองมองดู ...

สิ่งเล็กๆ ที่พระเจ้าใส่ไว้ในชีวิตเรานั้นคืออะไร ?

ใช้มันออกไป ...

แม้มันอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าใครเขา

แต่มันคือสิ่งที่พระเจ้าได้สร้างเรา ในแบบ ที่เราเป็น

~^_____________^~


ปล. เนื้อหาเค้าโครงดัดแปลง จากหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านมา แต่จำไม่ได้ว่าเล่มไหนในบ้าน ค้นเจอแล้วจะเข้ามาแจ้งที่มานะคะ
ภาพประกอบ จากค้นหาจากเว็บไซต์

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ว่ายทวนกระแส.....

เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง
เรื่อง "มาตรฐาน"

มาตรฐานของพระเยซู กับ มาตรฐานของโลก







.. ความชอบธรรมของคริสเตียนจะต้องลึกซึ้งกว่าเพราะแทงทะลุถึงจิตใจ..
ดีไม่ดี ไม่ได้วัดที่พฤติกรรมและการกระทำภายนอกแค่นั้น
เพราะเดี๋ยวการแสร้งว่าดีนั้นมีเยอะ แต่ต้องวัดกันที่จิตใจกันเลยทีเดียว

.. ความรักของคริสเตียนจะต้องกว้างขวางกว่า เพราะรวมถึงศัตรูด้วย..
อย่ารักแค่คนน่ารัก แม้แต่คนที่เราเกลียด เราควรที่จะรักและอภัยแก่เขา
หาทางที่จะปรับความเข้าใจ เคลีย์ในสิ่งที่เป็นปัญหากัน
.. การปฏิบัติศาสนกิจของคริสเตียนต้องไม่ทำเพื่อโอ้อวดตัวเองแบบคนหน้าซื่อใจคด..
การทำอะไรเพื่อโอ้อวดก็ไม่ดีทั้งนั้นแหล่ะ
.. ไม่อธิษฐานแบบนกแก้วนกขุนทอง ต้องทำด้วยใจจริง..
ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ

ฯลฯ


แต่ในชีวิตจริง เคยได้ยินบ่อยครั้ง กับคำว่า ‘ ก็ทำตามๆเขา ไปเถอะ ’

คือ ส่วนใหญ่เขาทำอย่างไร ก็ทำตามๆ กันไป

ซึ่งถ้าสิ่งนั้นดี ก็ดีไป แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหล่ะ !

"ความถูกต้อง" จะถูกกลืนไปกับพฤติกรรมของ "คนส่วนใหญ่" ไหม ?
ค่านิยมที่ดีหลายอย่างถูกกลืนหายไป

และหลายอย่างที่ไม่ดีก็ถูกดูดซึมในชีวิตของคนเรา
ผ่านสื่อต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา

จนบางอาจเกิดความคิดว่า ‘ ก็ไม่เห็นว่ามันไม่ดีตรงไหนนี่ ’

แล้วอนาคต " มาตรฐาน" ในสังคมจะเป็นเช่นไร ?

เรา ... จะเป็นคนหนึ่ง
ที่ช่วยกันกำหนด มาตรฐาน
กำหนด สิ่งที่ดี อย่าให้ ความดี นั้นเลือนหายไป
.. ในรุ่นชีวิต...ของ...เรา ได้ไหม ?
(โรม 12:2) อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

คำอธิษฐานที่ไม่มีคำตอบ ?

(มาระโก 11:24) เหตุฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ขณะเมื่อท่านจะอธิษฐานพระเจ้าขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ และท่านจะได้รับสิ่งนั้น









เช้าวันหนึ่ง ก่อนออกจากบ้าน มองบนฟ้า ฝนคงยังไม่ตกหรอก คงไปถึงออฟฟิศทันก่อนที่ฝนจะตก

Blue pray : "G ฝนอย่าพึ่งตกนะ ไม่อยากหยิบร่มไป แบกของเยอะแยะมากมายก่ายกองแล้ว (-_-) "

ก็เดินออกมายืนรอรถเมล์ตามปกติ ยืนรอใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงป้ายรถเมล์ รอไป 5 นาที รถก็ยังไม่มา มีคนเดินกางร่มมา



Blue think : "อืม..ฝนตกแล้วหรือนี่!!"

Blue pray : "G ให้ฝนหยุดตกเถอะ เดี๋ยวเปียก notebook เปียกด้วยหล่ะแย่เลย"

หลังจากจบคำอธิษฐานแล้ว .....

ฝนจากที่ตกเบาๆ เริ่มหนักขึ้นๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกดังคำอธิษฐาน

แต่บลูก็ยังคงยืนรอรถเมล์อยู่ที่เดิม...รถยังไม่มา

Blue pray : "G ขอทรงหยุดฝนเถิด ดูซิฝนตกหนักมากขึ้นแล้ว ! "

คนรอบข้างเริ่มหาที่หลบฝน เริ่มหยิบร่มขึ้นมากาง

อีกสัก 3 นาที รถเมล์มา ....

บลูเดินขึ้นรถเมล์ไป ...................




Blue think : "คำอธิษฐานนี้ไม่มีคำตอบหรือ ?"



เสียงหนึ่งก็เข้ามาในใจ : "เปล่าเลย..เราไม่ได้ไม่ตอบคำอธิษฐานของเจ้า เพียงแต่เจ้าจำกัดคำตอบของเราต่างหาก เจ้าขอให้ฝนหยุดตก แต่เรารู้ถึงความต้องการของเจ้าคือไม่ต้องการที่จะเปียกฝน แล้วเจ้าเปียกฝนหรือเปล่าเล่า ขณะที่คนรอบข้างหยิบร่มขึ้นมากาง หาที่หลบฝน แต่เจ้ายังคงยืนรอรถเมล์ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นโดยไม่เปียกฝน เจ้ารอจนรถเมล์มาแล้วเดินขึ้นรถเมล์ไป เจ้าก็ไม่เปียกฝน ...เรายังไม่ตอบคำอธิษฐานของเจ้าอีกหรือ "

อืม (O____________O)!

Blue think : " นั่นซิ เราไม่เปียกฝนเลยนี่หว่า! เรายืนรอรถเมล์ใต้ต้นไม้ ทั้งๆที่ปกติไม่ชอบยืนใต้ต้นไม้ แต่วันนี้เดินมายืนรอตรงนี้เฉยเลย รถเมล์มาจอดทางขึ้นด้านหน้าตรงกับที่เรายืนพอดี ให้เราเดินขึ้นโดยไม่เปียกฝน ทั้งๆที่ตรงนี้ยังไม่ถึงจุดที่จะจอดรถเมล์ตามปกติ "

อืม (O____________O)! เอ่อ..........................


หลายครั้งเราอาจเป็นเหมือนเด็กคนนี้

ที่จำกัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพระเจ้าจะต้องตอบเราอย่างนั้นอย่างนี้ นะ ...

และเมื่อพอไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นตามความคิดตามความเข้าใจของเราเอง ...

ก็เริ่มร้องโวยวาย พร่ำบ่นว่าทำไมพระเจ้าไม่ฟังเราเลย... ทำไม...ทำไม แล้วทำไม

...ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว...

หลายเหตุการณ์ ...

มีคำตอบสำหรับเราแล้ว แต่เราไม่ใส่ใจ

หลายเหตุการณ์ ...

พระเจ้าตรัสอยู่ข้างหูเรา แต่เราไม่ฟัง

หลายเหตุการณ์ ...

เราได้ไปกำหนดว่าคำตอบต้องเป็นอย่างใจเราต้องการ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด

และ หลายเหตุการณ์...

อาจจะหนักหนาเกินกว่าเราจะรับได้ แล้วพระเจ้าได้ดูแลเราให้สิ่งเหล่านั้นเบาบางลง โดยเราไม่รู้ตัว




" แล้ววันนี้ ... คุณฟังเสียงพระเจ้าแล้วหรือยัง ? "