วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อกลับมาอีกครั้งหนึ่ง..



เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เข้านมัสการในรอบเช้าเหมือนปกติทุกๆครั้ง ด้วยความที่เป็นคริสเตียนมานาน เรียนมาก็เยอะ เห็นอะไรมาก็แยะ จนกระทั่งกลายเป็นว่าการกระทำอะไรบางอย่างในวันอาทิตย์ กลับกลายเป็น "กิจวัตรประจำสัปดาห์" ไม่ได้น่าตื่นเต้นไปเสียทุกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจะรู้ตัวดีก็ตามว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเป็น แต่ผมเข้าใจในสิ่งนี้ได้ครับ

สิ่งนี้ก็คือการที่ผมต้อง "ยอมรับความจริง" คริสเตียนต้องยอมรับความจริง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ผู้รับใช้พระเจ้า" ก็ต้องยอมรับความจริงว่า นี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตคริสเตียนของเรา แม้ว่าอาการที่เรียกว่า "อ่อนแรง" "อ่อนล้า" ลงนั้น บรรดานักเทศน์ที่เข้มข้น จะตะโกนบอกในตอนเทศนาอยู่เสมอว่า คริสเตียนต้อง "ร้อนรน"อยู่เสมอ แต่ก็ต้องไม่ปฏิเสธว่า แม้กระทั่งผู้นำ และเข้มแข็งที่สุด ตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน และเรื่อยไปในอนาคต ล้วนเคยอ่อนแรง และพลาดมาก่อนทั้งนั้น ในพระคัมภีร์ ให้ไล่ชื่อมาก็ มีตั้งแต่ อับราฮัม ยาโคบ ดาวิด ซาโลมอน ยันเปโตร

หลังจากที่ยอมรับแล้ว ว่า คุณไม่ได้ผิดปกติหรอกครับ เหล่าคริสเตียนทุกเพศ ทุกวัน ทุกระดับความเชื่อก็ล้วนเคยเป็นอาการนี้มาทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ...เราจะทำยังไงต่อไปดี

จากประสบการณ์ ทั้งส่วนตัว และบรรดาเพื่อนฝูงในแวดวงผู้รับใช้ร่วมกันก็ดี จะมีช่วงเวลาที่นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหวตั้งแต่ 1เดือน ยันเป็นปี ซึ่งระยะเวลาใดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ สภาพแวดล้อม สถานะภาพในขณะนั้น รวมไปถึงเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ส่วนตัวและครอบครัว ก็ส่งผลทั้งนั้น แต่ให้เชื่อเถอะว่า ถ้าความเชื่อที่แต่ละท่านมี "รากฐาน"ที่มั่นคงอยู่แล้ว อาการอย่างนี้จะไม่ส่งผลไปจนกลายเป็นคนที่ "หลงหาย" หรอกครับ บรรดาท่านศิษยาภิบาล พี่เลี้ยงทั้งหลายไม่ต้องกังวลครับ แล้วผมก็ไม่แนะนำให้ท่านไป "เร่งเร้า", "ตำหนิ" หรือที่บางคนเรียกกันเพราะๆว่า "หนุนใจ"เพราะยิ่งจะไปกันใหญ่ครับ สิ่งที่ทำได้คือ "เข้าใจ" รวมไปถึง "รักษาความสัมพันธ์" ไว้จะดีกว่าครับ ผมมีเพื่อนผู้รับใช้ท่านนึง ท่านก็ไม่ได้เป็นอาการอะไรมากหรอกครับ แค่อยากนิ่ง สงบ หลังจากกำศึกทั้งกับลูกแกะก็ดี ซาตานก็ดี แต่ผู้นำท่านนั้นไม่เข้าใจ กะจะหนุนใจ แต่เบื้องลึกที่ท่านไม่ทราบกลับกลายเป็นการกดดัน จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อนของผมท่านนั้น เลยลาออกจากคณะ และคริสตจักรนั้นไปเลย...

ทุกคนมีช่วงเวลาพักสงบได้ครับ ถ้าท่านที่อ่านปัญญาจารย์ ก็จะพบว่า ผู้เขียนได้พูดถึง "วาระ" คุณและผมก็ล้วนมีวาระในแต่ละสิ่งครับ เมื่อวาระพัก จงพัก แต่วาระวิ่ง ก็วิ่งให้เต็มกำลังเท่านั้นครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น