จากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง การมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน ก็เริ่มส่งผลทำให้มีความแตกแยกกันอย่างชัดเจนในสังคมเรา บางคนถึงกับขนาดในครอบครัวมีความคิดเห็นอยู่คนละสีกัน ก็ทำให้เกิดปัญหามาแล้ว ซึ่งปัญหานี้ก็ไม่ยกเว้น"คริสเตียน"อย่างเราๆท่านๆด้วย
บางท่านกลับชักศึกเข้าบ้าน ทำให้สมรภูมิเกิดขึ้นในครัวเรือนตนเองเสียด้วยซ้ำ รวมไปถึงชักศึกเข้าโบสถ์ไปนั่น ล่าสุดผมพบว่า พี่น้องคริสเตียนส่วนใหญ่จะมีสีเหลือง ไปจนถึงกลุ่มเสื้อหลากสีค่อนข้างเยอะ แต่ก็พบว่ามีบางส่วน บางท่านที่เป็นสีแดงชัดเจน เช่น อาจารย์ที่ผมเคารพท่านนึง เป็นนักฟื้นฟู ก่อตั้งคริสตจักร ประกาศอย่างร้อนรน ท่านถึงขนาดผูกผ้าสีแดงที่รถของท่านประกาศตัวอย่างชัดเจน อีกท่านนึงเป็นผู้รับใช้ระดับผู้จัดการในองค์กร สถาบันพระคริสตธรรมระดับนานาชาติ มีความเป็นผู้ใหญ่ และวุฒิภาวะคริสเตียนสูงคนนึง ก็แสดงตนอย่างเงียบๆว่าเป็นแนวร่วมของสีแดง
ทั้ง 2ท่านที่ผมยกตัวอย่างมานั้น ผมเลือกที่จะไม่ถาม หรือคุย ออกความเห็นทางการเมืองกับท่านทั้ง 2 รวมไปถึงการถามถึงสาเหตุที่ท่านเลือกอยู่ฝ่ายสีแดง เวลาเราพบกันเจอหน้ากัน ก็จะหนุนใจกันในพระคำ พระวจนะพระเจ้า ถามไถ่ถึงงานรับใช้ อธิษฐานเผื่อกัน แบ่งปันประสบการณ์ในงานรับใช้ ปรึกษาหารือกันด้วยความรักอย่างแท้จริง โดยการเลือกและมองข้ามเหตุผลทางการเมืองไปเสีย เราก็จะพบว่าเกิดความสงบสุขและความรักในจิตใจอย่างแท้จริงครับ
"เสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหมายถึง เรามีสิทธิเลือกที่จะแสดงความคิดเห็น รวมไปถึง งดแสดงความคิดเห็น ต่อใครก็ได้อย่างอิสระ" ดังนั้นควรเลือกคนที่จะแสดงความคิดเห็นนะครับ
แต่ถ้ามุมกลับกัน ถ้าเราหรือคริสเตียนบางท่านเลือกที่จะเข้าไปห้ำหั่นด้านความคิดเห็นทางการเมือง แบ่งสีกัน ต้องตามล่า ตามล้าง ผลที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสิ่งที่ร้ายแรง รุนแรงจนถึงขนาด ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ยาวนานมาหลายปี หรือถ้าเกิดในโบสถ์ในคริสตจักรแล้วหละก็ อาจถึงกับโบสถ์แตกได้ง่ายๆครับ
"ความคิดเห็นทางการเมืองก็เป็นเหมือนความเชื่อทางศาสนา มาเปลี่ยนแปลงกันโดยเถียงไม่ได้หรอกครับ"
ผมเสนอให้หันกลับมามองใหม่ครับ ว่า"สมรภูมิรบ" สงครามของพวกเราที่เป็นคริสเตียน แท้จริงแล้วอยู่ที่ไหน พระวจนะของพระเจ้าให้คำตอบไว้แล้วครับ
เอเฟซัส 6:12:
เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ
ดังนั้นสนามรบของเรา ไม่ใช่เนื้อ และเลือดบนโลกใบนี้ครับ แต่เป็นพวกซาตาน วิญญาณชั่วที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นต่างหากครับ ....ถ้าเช่นนั้นแล้ว เราจะเอาอะไรไปสู้ครับ .... ปืนผา หน้าไม้ ระเบิด มีด ขวาน ไปจนถึงการอาฆาตมาดร้าย ด่าทอกัน แช่งสาปกันนั้น เราจะเอาชนะซาตานได้หรือครับ???? คำตอบคือ ไม่ได้ แต่ถ้ายิ่งเราไม่รู้ตัว ไม่ได้สติ ไม่สงบในการใคร่ครวญให้ดี คนที่จะแพ้ก็คือพวกเรา"คริสเตียน"ทั้งหลาย ส่วนฝ่ายที่จะชนะคือ "ซาตาน"ครับ
ผมจึงอยากหนุนใจให้คริสเตียนที่กำลังตกอยู่ในความคิดที่จะตอบโต้กันด้วยความโกรธ เกลียด อาฆาต แช่งสาป ใคร่ครวญและคิดใหม่หลังจากได้อ่านคำทักท้วงของผมนะครับ
ผมคนนึงที่กลับใจใหม่ และสารภาพบาปแล้วเมื่อ3วันก่อนเขียนบทความนี้ครับ
(มีเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับพี่น้องคริสเตียนเราใน FaceBook จากเหตุการณ์ความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน ท่านนึงสีเหลือง ท่านนึงสีแดง มีการส่งข้อความตอบโต้ระหว่างกันอย่างรุนแรง โดยที่ผมซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ต้องเข้าไปรับทราบอย่างไม่ตั้งใจ เนื่องจาก การเขียนอะไรก็ตามในFaceBook ท่านอื่นๆที่เป็นFriend ด้วยนั้นจะทราบทุกๆข้อความที่เขียนครับ กลายเป็นอภิสงครามแช่งสาประหว่างคริสเตียนด้วยกันที่ดูแล้ว น่าสมเพศมากครับ โดยคนอ่านทั้งหมดเป็นทั้งคริสเตียนและไม่ใช่คริสเตียนกว่าพันคนได้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น