วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ใครอยากอายุยืนบ้าง...ยกมือขึ้น

 

1 ในความปรารถนาของคนทุกยุคสมัย ทุกชนชั้นตั้งแต่ยาจกยันกษัตริย์ ก็คือ "การมีอายุยืนยาว" แม้จักรดิ์พรรดิ์จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวบรวมแผ่นดินจีนในอดีตเป็นหนึ่งเดียวก็ต้องดั้งด้นเพื่อหายา "อายุวัฒนะ"ให้ตนเองอยู่ครองความยิ่งใหญ่ไปตราบนานเท่านาน แต่แม้ท้ายสุดก็ต้องตาย โดยไม่ตายเปล่า กลับทำหลุมศพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการปั้นหุ่นดินเผากองทัพไปรับใช้ตนเองในอีกภพหนึ่งด้วย(น่าเสียดายที่พระองค์ไม่รู้ว่า อีกภพนึงเป็นอย่างไร และมีอะไรรออยู่) ...ใช่ครับ แม้ในที่สุดแล้วทุกคนก็ต้องตาย ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว แต่ทุกคนก็ย่อมไม่อยากตายเร็ว หรือจากไปก่อนวัยอันควรทั้งนั้นใช่ไหมครับ?

โดยหลักการที่จะอายุยืนนั้น จะพบว่า ในทรรศนะของพระคัมภีร์ การมีอายุยืน ถือเป็นคำอวยพรที่มาจากพระเจ้า โดยผ่านการให้เกียรติบิดา-มารดา (อพย.20:12) , (อฟ.6:1-3)

แต่นอกเหนือจากนั้น ผมก็ยังเชื่อว่า การที่เราจะมีอายุยืน ก็อยู่ที่เราดูแลตนเองอย่างไรด้วยครับ โดยอย่างที่เราทราบอยู่ว่า ร่างกายของเราเป็น"พระวิหาร"ของพระเจ้า (1 โครินธ์ 3:16) ร่างกายนี้เป็นบ้านชั่วคราว พอเราจากโลกนี้ไปเราก็ต้องทิ้งร่างกายนี้กลับคืนสู่ดินอีกครั้ง ดังนั้น เราเสมือนเป็น "ผู้อารักขา" ร่างกายนี้ที่พระเจ้าให้มาครับ เราจะเป็นดั่งคนที่สัตย์ซื่อต่อร่างกายของเรานี้ไหม

ผมมักจะคิดอยู่เสมอว่า ร่างกายนี้ก็เหมือนรถยนต์ เป็นพาหนะที่ทำให้เราไปไหนมาไหนในโลกนี้ หรือภาษาพระคัมภีร์ที่ใช้ว่า "ไปดีมาดีในแผ่นดินโลก" ดังนั้น ร่างกายนี้ก็ต้องการดูแลรักษา ซ่อมแซมตามสิ่งที่ควรจะเป็น โดยเริ่มต้นที่

1. การรับประทานอาหารก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง เหมือนการเติมเชื้อเพลิงให้กับรถ มีคำพูดหนึ่งที่บอกว่า "You are what you eat" คุณจะเป็นดั่งสิ่งที่คุณกิน ถ้ากินของดีต่อสุขภาพ โปรตีน ผัก ผลไม้สด ร่างกายของคุณก็จะดีไปด้วยครับ อย่างดาเนียลเป็นตัวอย่างครับ (ดาเนียล1)

2. การพักผ่อนที่เพียงพอ ร่างกายก็เหมือนรถ ที่ใช้งานก็ต้องมีหยุดพักครับ เวลาพักผ่อนที่เพียงพอต่อเราโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 6-8ชม.นะครับ ทุกคนมีวาระครับ สำหรับผมถ้าหัวถึงหมอนแล้วเรื่องอะไรที่กังวลใจ ผมจะมอบให้กับพระเยซู การนอนในที่นี้คือการหลับสนิท หรือหลับลึกครับ

3. การขับถ่ายที่ดี รถยนต์ยังต้องมีท่อไอเสียเลยครับ แต่ร่างกายของเรานั้นก็เหมือนกัน ทั้งนี้ รวมทั้ง 2อย่างคือถ่ายหนักและถ่ายเบาครับ โดยปกติคนเราควรจะถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอครับ อย่าทิ้งไว้นาน เพราะจะเป็นที่มาของโรคท้องผูก และริดสีดวงทวาร ลามไปเรื่อยๆครับ การขับถ่าย ค่อนข้างเกี่ยวข้องสัมพันธ์โดยตรงกับสิ่งที่เรากินครับ ถ้าเรากินเนื้อสัตว์มากไป การถ่ายของเราจะค่อนข้างแข็งกว่าการกินเน้นที่ผัก และผลไม้อย่างเห็นได้ชัด ส่วนการปัสาวะ ก็เกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำที่สะอาดเพียงพอ ถ่ายปัสาวะอย่างสม่ำเสมอ ไม่อั้นไว้นานเพราะจะกลายเป็นโรคกระเพาะปัสาวะอักเสบได้ครับ

4. การออกกำลังกาย ถ้ารถยนต์คันไหนจอดทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลานาน เกิน1สัปดาห์ ทางช่างจะแนะนำว่าต้องนำรถออกมาวิ่งวอร์ม หรืออย่างน้อยก็สตาร์ทอุ่นเครื่องเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นก็จะส่งผลเสียต่อระบบในรถยนต์หลายๆอย่างครับ ร่างกายของเราก็เหมือนกัน คนที่รู้ดีก็คือ คนวัยทำงานอายุ 25ปีขึ้นไป แต่ก่อนสมัยเป็นวัยรุ่น วัยเรียน เราก็จะวิ่งเล่นใช้แรงค่อนข้างเยอะ สุขภาพก็จะสดชื่นไม่ค่อยเจ็บป่วยง่าย แต่พอเข้าวัยทำงาน ต้องนั่งเก้าอี้นานๆ กว่าจะเลิกงานกลับถึงบ้านก็หมดแรง วันอาทิตย์ก็ต้องไปโบสถ์อีก ไม่รู้จะหาเวลาไหนมาออกกำลังกาย เราจะรู้ตัวเองเลยว่าร่างกายไม่แข็งแรงและสดชื่นเหมือนสมัยเรียนหนังสือครับ

โดยตัวของผมก็เห็นได้ชัดว่า พอวัยแตะ 30ปั๊บ รอบเอวก็มาปุ๊บ มาโดยไม่ได้ขอ ไม่ได้ให้ตั้งตัว และก็ขึ้นพรวดๆ ยิ่งเผ่าพันธุ์ของผมเป็นประเภทไขมันสะสมบริเวณพุง และก้นเป็นหลัก ก็เลยทำให้กางเกงทุกตัวที่เคยใส่ได้ ต้องเก็บยาวครับ หาซื้อใหม่มาใส่เท่านั้น สร้างความลำบากให้กับคนที่ไม่ค่อยชอบซื้อเสื้อผ้าใหม่อย่างผม ตอนนี้ก็เลยจัดสรรเวลาให้กับตัวเองใหม่ ผมคิดอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายถ้าจะไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือต้องเสียเงินเข้าFitness(ซึ่งในอดีตเคยมาแล้ว) ไม่สามารถจัดเวลาไปได้แน่นอน เพราะข้ออ้างก็คือเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเดินทางไปที่ไหนอีกนอกจาก "บ้าน" ก็เลยจัดการทำให้บ้าน กลายเป็นสถานที่ออกกำลังกายเสียเลย โดยจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาไว้ที่บ้าน ตามงบประมาณที่จำเป็น ซึ่งท้ายสุด นอกจากอุปกรณ์แล้ว เราจะต้องมีความคิด"แง่บวก" ในการออกกำลังกายให้ได้ครับ ไม่เช่นนั้น อุปกรณ์ทั้งหมด จะกลายเป็นราวตากผ้าราคาแพงไปทันที

5. สุดท้ายคือ อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งมีคำพูดว่า "จิตใจเบิกบาน คือยาขนานเอก" พยายามมีทัศนะคติในแง่บวก พึ่งพาและฝากความหวังใจไว้ในพระเจ้าครับ คุณจะพบว่า พระเจ้าทรงมีทางออกในทุกปัญหาและทุกสถานะการณ์ การเฝ้าเดี่ยว และนมัสการพระเจ้าในแต่ละวันนั้น คือคำตอบเดียวที่จะทำให้เราพบความเบิกบานอย่างถาวร มากกว่าสิ่งใดครับ ผมเป็นคนที่ขี้เกียจในการเฝ้าเดี่ยวอย่างมาก(อาจจะเหมือนหลายๆคน) แต่ก็พบว่า ยามใดที่ผมได้ใช้เวลากับพระเจ้าส่วนตัว จิตใจและความสงบ เบิกบาน ก็เข้ามาแทนที่ในจิตใจตลอดทั้งวัน เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง สันติสุขของพระคริสต์จึงไม่เหมือนสันติสุขในโลกนี้ทั้งสิ้นครับ อารมณ์ และจิตใจที่ดี จะทำให้ร่างกายของคุณดีไปด้วยครับ

ขอให้คริสเตียนทุกท่าน ที่พวกเราได้ชื่อว่าทหารเอกของกองทัพพระเยซูคริสต์ มีร่างกายแข็งแรง จิตใจมั่นคง เพื่อให้ร่างกายของคุณที่พระเจ้าประทานไว้ให้ไปต่อสู้กับซาตานศัตรูของคุณได้

(ผมตั้งเป้า จะลดพุงจาก 34 ให้เหลือ 32นิ้วในเวลา 2เดือนให้ได้ครับ อาเมน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น